เลือกสถานที่จัดเลี้ยงอย่างไรให้ตรงตามงบประมาณและสไตล์งาน

ทริกเลือกสถานที่จัดเลี้ยงให้ตรงกับงบ

ยกระดับงานเลี้ยงของคุณให้น่าจดจำด้วยสถานที่จัดเลี้ยงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

งานเลี้ยงและงานแต่งงานเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการสร้างความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต แน่นอนว่าคู่รัก คู่แต่งงานมักจะมีภาพงานในฝันของตัวเองอยู่ในหัวอยู่แล้ว การเลือกสถานที่จัดเลี้ยงงานแต่งงานให้เหมาะกับงบประมาณไม่ใช่เรื่องยาก เพราะวันนี้ Tango Wood Studio จะมาแนะนำเคล็ดลับในการเลือกสถานที่จัดเลี้ยงอย่างไรให้เกิดภาพจำไปตลอดกาล

งานเลี้ยงมีกี่ประเภท?

งานเลี้ยงสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะและจุดประสงค์ของงาน ตัวอย่างเช่น

  1. งานเลี้ยงสังสรรค์ (Party) - เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว เป็นงานที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย อาจจัดในร้านอาหารหรือบ้านส่วนตัว และเพิ่มความสนุกให้กับงานด้วยการสร้างธีม จะทำให้ผู้มาร่วมงานสนุก และคึกคักกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น
  2. งานแต่งงาน (Wedding) - เป็นงานสำคัญที่มีการวางแผนรายละเอียดมาก ทั้งธีมงาน การตกแต่ง และลำดับพิธีการ ที่สำคัญสำหรับงานแต่งงานคือ สถานที่จัดเลี้ยง ต้องสะดวก มีที่จอดรถ
  3. งานเลี้ยงทางธุรกิจ (Corporate Event) - เช่น การประชุม สัมมนา หรืองานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า ซึ่งต้องการสถานที่ที่เป็นทางการและสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะ เช่น ตามห้องบอลรูมโรงแรม เป็นต้น
  4. งานเลี้ยงเกษียณ (Retirement Party) - มักเน้นการแสดงความขอบคุณและการสร้างบรรยากาศอบอุ่นในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน งานประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจัดตามร้านอาหาร หรือเป็นการกินเลี้ยงกันธรรมดา

สถานที่จัดเลี้ยงที่ดีควรมีอะไรบ้าง?

สถานจัดเลี้ยงที่เหมาะสมสำหรับงานเลี้ยงหรือแต่งงานควรมีสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) ต่อไปนี้

  • พื้นที่ที่เพียงพอ : ต้องแน่ใจว่าสถานที่จัดเลี้ยงสามารถรองรับจำนวนแขกได้ทั้งหมด โดยที่ไม่อัดแน่นจนเกินไป
  • อุปกรณ์ครบครัน : เช่น ระบบไฟ แสง สี เสียง และโปรเจกเตอร์ และบางสถานที่จัดเลี้ยงยังมีแพ็กเกจอาหารให้ลูกค้าได้เลือกใช้อีกด้วย เรียกว่าเป็น One-Stop-Service ก็มี
  • พื้นที่จอดรถ : เพื่อความสะดวกของแขก หรือควรเลือกสถานที่จัดเลี้ยงที่ใกล้กับรถไฟฟ้า สามารถเดินทางได้สะดวก
  • บริการอาหารและเครื่องดื่ม : อย่างที่กล่าวไปว่าสถานที่จัดเลี้ยงบางแห่ง จะมีแพ็กเกจอาหารให้ลูกค้าได้เลือก แต่หากลูกค้ามีความประสงค์จะนำเคเทอริ่งจากภายนอกเข้ามาก็ย่อมได้ แต่ควรเลือกเคเทอริ่งที่ดี มีชื่อเสียง เพราะต้องไม่ลืมว่างานแต่งงานอาจจัดได้แค่ครั้งเดียวสำหรับบางคน ฉะนั้น การพลาดในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะเป็นจุดด่างในใจของเราไปทั้งชีวิต
  • ทีมงานช่วยดูแล : เช่น พนักงานเสิร์ฟหรือผู้ช่วยจัดงาน

วิธีเลือกสถานที่จัดเลี้ยงให้ไม่เกินงบประมาณ

  1. ตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินตัว แต่เอาจริง ๆ ควรมีงบสำรองสำหรับหน้างานด้วย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหน้างานบ้าง
  2. เปรียบเทียบราคา ลองค้นหาสถานที่จัดเลี้ยงหลาย ๆ ที่และนำมาเทียบราคา Facilities และความสะดวก สบาย ด้านอื่น ๆ เพื่อนำมาเป็นเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด
  3. มองหาสถานที่ที่มีแพ็กเกจรวม เช่น รวมค่าอาหาร การตกแต่ง และบริการอื่น ๆ
  4. เลือกช่วงเวลาที่ราคาไม่สูง เช่น จัดงานในวันธรรมดาหรือช่วงโลว์ซีซัน

7 เทคนิคจัดงานเลี้ยงและงานแต่งงานให้ปัง! สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

การจัดงานเลี้ยงหรืองานแต่งงานให้สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่การเตรียมสถานที่เท่านั้น แต่ต้องมีการใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษสำหรับทุกคนที่มาร่วมงาน นี่คือ 7 เทคนิคเด็ด ที่จะทำให้งานของคุณ “ปัง”

  1. กำหนดธีมงานให้ชัดเจน
    ธีมงานช่วยสร้างบรรยากาศและทำให้งานดูมีเอกลักษณ์ เช่น
    • ธีมโรแมนติก เน้นดอกไม้โทนอ่อน แสงไฟละมุน
    • ธีมมินิมอล เรียบง่ายแต่หรูหรา โทนขาว-เอิร์ธโทน
    • ธีมสนุกสนาน เพิ่มลูกเล่นพิเศษ เช่น กล้อง 360 องศา, บูธเกม, หรือแบคดรอปสวย ๆ สำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก การมีธีมจะทำให้งานของคุณโดดเด่นและมีสไตล์เป็นของตัวเอง!
  2. เลือกใช้แสงและเสียงให้เหมาะสม
    แสงและเสียงคือหัวใจสำคัญในการสร้างบรรยากาศภายในงาน
    • ใช้แสงไฟนวล ๆ ในงานแต่งงาน เพิ่มความโรแมนติก
    • จัดแสงสีสำหรับงานเลี้ยงหรือปาร์ตี้ สร้างความสนุกสนาน
    • เสียงดนตรีสดหรือเพลย์ลิสต์เพลงช่วยเพิ่มความประทับใจตลอดงาน
  3. จัดโต๊ะและพื้นที่ให้พอดีกับจำนวนแขก
    • แจกการ์ด 100 ใบ ควรเตรียมพื้นที่รองรับอย่างน้อย 150 คน เพราะแขกอาจพาครอบครัวหรือเพื่อนมาด้วย
    • คำนึงถึงความสะดวกในการเดินผ่าน และพื้นที่สำหรับกิจกรรม
    • แบ่งโซนชัดเจน เช่น โซนรับประทานอาหาร, โซนกิจกรรม, และ มุมถ่ายรูป
  4. เลือกใช้ดอกไม้และของตกแต่งที่ดูพรีเมียม
    • ดอกไม้สด ช่วยให้งานดูหรูหราและมีชีวิตชีวา
    • เลือกสีดอกไม้ให้เข้ากับธีมงาน เช่น สีชมพูพาสเทลสำหรับธีมหวาน ๆ หรือสีขาวเขียวสำหรับธีมธรรมชาติ
    • หลีกเลี่ยงดอกไม้พลาสติก เพราะจะทำให้งานดูด้อยคุณค่า
  5. วางแผนลำดับพิธีการให้เป๊ะ
    การมีลำดับงานที่รัดกุมจะช่วยให้งานไหลลื่นไม่มีสะดุด
    • หากมี ออร์แกไนเซอร์ จะช่วยให้เจ้าภาพสบายขึ้น เพียงตรวจเช็กและอนุมัติแผนงาน
    • หากจัดงานเอง ควรเตรียม ลำดับพิธีการ และ สคริปต์งาน ให้ครบถ้วน เช่น พิธีเปิดงาน, การกล่าวขอบคุณ, และช่วงกิจกรรมพิเศษ
  6. เพิ่มกิจกรรมสนุก ๆ ให้แขกไม่เบื่อ
    การมีลำดับงานที่รัดกุมจะช่วยให้งานไหลลื่นไม่มีสะดุด
    • สร้างความประทับใจด้วยกิจกรรมเสริม เช่น
    • ดนตรีสด หรือวงแสดงอะคูสติก เพิ่มบรรยากาศอบอุ่น
    • มุมถ่ายภาพเก๋ ๆ พร้อมพร็อพสุดชิคที่แขกจะต้องหลงรัก
    • เกมหรือการจับรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความสนุกและความทรงจำดี ๆ
  7. จัดอาหารที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
    อาหารคืออีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้งานสมบูรณ์แบบ
    • เตรียมเมนูที่หลากหลาย เช่น อาหารคาว-หวาน, มังสวิรัติ, และ อาหารสำหรับผู้แพ้อาหาร
    • ระวังส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ถั่วหรืออาหารทะเล
    • การมีอาหารที่ครบครันจะทำให้แขกทุกคนอิ่มเอมและประทับใจ

การจัดงานแต่งงานหรืองานเลี้ยงจำเป็นต้องมีออร์แกไนเซอร์หรือไม่?

ออร์แกไนเซอร์อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดหรืออยากได้งานที่สมบูรณ์แบบ การจ้างมืออาชีพจะช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก

ข้อดีของการจ้างออร์แกไนเซอร์

  1. ประหยัดเวลา
    ทีมงานดูแลทุกขั้นตอน
  2. ความเชี่ยวชาญ
    ออร์แกไนเซอร์มีประสบการณ์ในการจัดการสถานการณ์ที่ซับซ้อน
  3. การจัดงานที่ไร้ที่ติ
    ลดโอกาสเกิดความผิดพลาด
  4. สร้างความประทับใจ
    งานออกมาสมบูรณ์แบบและน่าจดจำ

ทำไมถึงควรเลือก Tango Wood Studio เป็นสถานที่จัดเลี้ยง?

เพราะ Tango Wood Studio เราเน้นความเป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่เปิดกว้างเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ พื้นที่ของสตูดิโอสามารถเชื่อมต่อระหว่าง Outdoor และ Indoor ได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถรองรับแขกได้ 300 ท่าน

  1. พื้นที่กว้างขวางที่เหมาะสำหรับทุกประเภทของงาน
  2. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทีมงานมืออาชีพ
  3. แพ็กเกจราคาที่คุ้มค่าและปรับแต่งได้ตามความต้องการ
  4. บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์

หากสนใจหรือกำลังมองหา สถานที่จัดเลี้ยงสามารถติดต่อ